ในโลกของการตลาด และธุรกิจ คำว่า "Agency" หรือ "เอเจนซี่" เป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในบริบทของการทำการตลาดดิจิทัล แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า คำนี้มีที่มาจากอะไร และทำไมปัจจุบันเราจึงได้ยินคำว่า “Advertising Agency” หรือ "เอเจนซี่โฆษณา" มากกว่า บทความนี้จะพาคุณย้อนกลับไปสู่ประวัติความเป็นมาของ Agency และการเปลี่ยนแปลงที่นำมาสู่ยุคของ Digital Marketing ที่มีบริษัททำการตลาดออนไลน์มากมายเหมือนในปัจจุบัน ความเป็นมาของคำว่า Agency . จุดกำเนิดของ Agency คำว่า "Agency" มีรากศัพท์มาจากภาษาละตินคำว่า "Agentia" ซึ่งหมายถึง "การกระทำ" หรือ "การดำเนินการ" ดังนั้น Agency จึงหมายถึงองค์กรหรือบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการดำเนินการต่างๆ แทนผู้อื่น Agency ในบริบทธุรกิจ ในโลกธุรกิจ Agency เริ่มมีบทบาทสำคัญตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบริษัท และลูกค้า ไปจนถึงเอเจนซี่จัดหางาน . วิวัฒนาการของ Agency สู่ Advertising Agency . ยุคเริ่มต้นของเอเจนซี่โฆษณา แนวคิดเรื่องเอเจนซี่โฆษณาเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 18 โดยสำนักงานโฆษณาแห่งแรก ๆ ของโลกคือ William Taylor ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1786 ที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยเน้นบทบาทเป็น “ตัวแทนขายพื้นที่โฆษณา” ให้กับหนังสือพิมพ์ และยังไม่ได้มีการรับทำการตลาดเกิดขึ้น ต่อมาในปี 1869 เมื่ออุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงเกิดเอเจนซี่รับทำการตลาดที่ขยายบทบาทมากกว่าการขายพื้นที่โฆษณาอย่าง N.W. Ayer & Son ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย โดยให้บริการแบบครบวงจรทั้งด้านกลยุทธ์การตลาด ครีเอทีฟ และวางแผนการสื่อสาร จึงถือว่าเป็น “บริษัทรับทำการตลาดแบบสมัยใหม่ (full-service agency)” แห่งแรกของโลก ยุคทองของเอเจนซี่โฆษณา ในช่วงทศวรรษ 1950-1960 ถือเป็นยุคทองของเอเจนซี่โฆษณา เมื่อโทรทัศน์กลายเป็นสื่อหลักในการโฆษณา เอเจนซี่ต่างๆ เริ่มพัฒนากลยุทธ์การตลาด และแคมเปญโฆษณามากขึ้น และมีเอเจนซี่รับทำการตลาดเพิ่มขึ้นเยอะมากในยุคนี้ การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล . Digital Marketing และบทบาทใหม่ของเอเจนซี่โฆษณา ด้วยการเติบโตของอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีต่างๆ บริษัทรับทำการตลาดจึงเริ่มปรับตัวครั้งใหญ่ การทำการตลาดออนไลน์กลายเป็นทักษะสำคัญที่ต้องมี ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจาก Traditional Advertising Agency ที่รับทำการตลาดแบบเดิมๆ สู่ Digital Agency ที่ทำการตลาดออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ บริการหลักของเอเจนซี่โฆษณาในยุค Digital Marketing การทำการตลาดออนไลน์ : วางแผนกลยุทธ์การตลาดบนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ การทำคอนเทนต์ออนไลน์ : สร้างเนื้อหาที่ดึงดูด และมีประสิทธิภาพสำหรับสื่อออนไลน์ การยิงแอด : บริหารจัดการโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Google Ads, Facebook Ads การให้คำปรึกษาด้านการตลาด: วิเคราะห์และให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์แก่ธุรกิจ การวางแผน และวิเคราะห์ข้อมูล : เก็บ วิเคราะห์ และตีความข้อมูลเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดแบบ Data-Driven Marketing การทำ SEO และ SEM :…

How to เพิ่มยอดขายเป็น 2 เท่า โดยไม่ต้องเพิ่มงบโฆษณา
อยากเพิ่มยอดขาย แต่ไม่อยากเปลืองงบกับค่าโฆษณา ต้องหาทางออกด้วย Performance Marketing
โดยทั่วไปเวลาที่เราอยากเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น หลายๆ เอเจนซี่โฆษณา มักตามมาด้วยการยิงโฆษณาที่มากขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้แต่วันนี้เรามีเทคนิคการทำ Performance Marketing เพื่อวางแผนการวัดผลที่ดีและทำให้คุณจ่ายค่า Ads ไม่ถึง 2 เท่า แต่สามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นเท่าตัว
1.) วางแผน Funnel เก็บข้อมูลการยิง Ads แยกตาม Channel สำหรับคนที่ยิง Ads หลายช่องทาง เช่น Facebook , Google , TikTok หรืออื่นๆ จำเป็นต้องวางแผนการเก็บข้อมูลเป็น Funnel แยกตาม Channel เพราะในแต่ละช่องทางมักจะมี Cost per conversion หรือ Basket Size ที่ต่างกัน ทำให้การวัดผลความคุ้มค่าของแต่ละ Channel ต้องเก็บข้อมูลแยกกัน และสำคัญที่สุดคือ เพื่อหา ROAS ของ Channel ต่างๆที่ชัดเจนมากขึ้น
2.) จัดลำดับ Priority ของ Ads ที่มี ROAS สูงไปต่ำหลังจากเก็บข้อมูลแยก Channel ได้แล้ว เราจะเริ่มเห็นงบประมาณที่เราใช้ในแต่ละ Channel เทียบกับยอดขายที่ได้รับ ทำให้เราคำนวณ ROAS ได้ง่ายขึ้น และ สามารถจัดลำดับความสำคัญของแต่ละ Channel ได้ดีขึ้น เช่น เราใช้เงินค่าโฆษณารวม 100,000 บาท ต่อเดือน เราจะสามารถเน้นน้ำหนักของงบไปกับ Channel ที่ทำ ROAS ได้ดีที่สุด (แต่ไม่ควร All in ไปใน Channel ที่ดีที่สุดช่องทางเดียว เพราะเสี่ยงเกินไป และอาจมีปัจจัยภายนอกอื่นๆที่ไม่คาดคิดมากระทบได้)
3.) สร้าง Dashboard สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลให้ง่ายขึ้นเพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลทำได้ง่ายขึ้น ควรสร้าง Dashboard สำหรับอ่านข้อมูลได้ง่ายๆ เช่น อาจใช้ Google Data Studio ทำกราฟเปรียบเทียบเงินค่าโฆษณา และยอดขายในแต่ละ Channel จะทำให้การตรวจสอบปัญหา และแก้ไข ทำได้ง่าย และรวดเร็วขึ้นมากๆ
4.) อย่ายึดติด หมั่นตรวจสอบ และรีบปรับแผนการทำงานตามสถานการณ์ส่วนใหญ่เวลาวางแผนการตลาด เราอาจวางเป็นแผนรายเดือน รายไตรมาศ หรือรายปี ซึ่งบางทีเราอาจจะยึดติดกับแผนมากเกินไป ทำให้การปรับเปลี่ยนแผนค่อนข้างช้า และอาจเสียโอกาสที่ดีได้ เราจึงควรหมั่นตรวจสอบ Dashboard หรือ KPI ต่างๆอยู่เสมอ เพื่อให้เราแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้นตามสถานการณ์ เช่น อาจมีการทดสอบเป็นรายสัปดาห์ กลยุทธ์ยังทำไม่ได้ตามเป้าหมาย ก็ต้องรีบวิเคราะห์หาสาเหตุ และทดลอง Content ใหม่ๆอยู่เสมอ
เมื่อเรามีเทคนิคการเก็บ Data และทำ Report ที่ดี การปรับกลยุทธ์ รวมถึงสัดส่วนงบประมาณโฆษณา ให้เสกลยอดขายได้มากขึ้น ก็จะไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้นเป็นเท่าตัวเสมอไป อาจจะไม่ต้องใช้ เอเจนซี่โฆษณา แต่เราจะรู้ได้ว่า Channel ไหน หรือ Content ไหน ที่สร้างยอดขายได้คุ้มค่ามากที่สุด และบางครั้ง Channel ที่สร้างยอดขายได้ “มากที่สุด” อาจจะไม่ใช่ Channel ที่ “คุ้มค่าที่สุด” สำหรับคุณก็ได้ยังมีเทคนิคอีกมากมายในการประยุกต์ใช้ Performance Marketing ที่น่าสนใจ ในการทำธุรกิจ และการวางแผนการตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา ให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
———————————–
หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาและทีมทำ เอเจนซี่โฆษณา สร้างยอดขายทะลุเป้าแบบก้าวกระโดด ติดต่อเราเพื่อให้ธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายที่ใฝ่ฝัน
ติดต่อปรึกษา เอเจนซี่โฆษณา ได้ที่ :: 094-616-3651
Line OA : @Unicronet
#Unicronet #PerformanceMarketing #DigitalAgency #เอเจนซี่โฆษณา