เอเจนซี่โฆษณา

ยิง Ads ทั้งที ได้แค่คนทักแต่ไม่มีคนซื้อ

Table of Contents

ยิง Ads ทั้งที ได้แค่คนทักแต่ไม่มีคนซื้อ เลือก Ads Objective ไม่ถูกซักทีหน้าตา Ads Manager ก็ปรับเก่งจนตามไม่ค่อยทันปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าเราเข้าใจหลักการของ Facebook Ads Objective !

แต่เดิมนั้นเราตั้งค่าเพื่อซื้อ Facebook Ads ผ่าน Ads Manager เราก็มักจะคุ้นเคยกับ 3 ประเภท Objective ใหญ่ๆ คือ Awareness Consideration และ Conversion ซึ่งส่วนใหญ่ใน Chat Commerce เราก็มักจะใช้กันแต่ Objective Reach (การเข้าถึง) , Engagement (การมีส่วนร่วม) หรือ Messages (ข้อความ) กันเป็นหลัก เพื่อเน้นปิดยอดขายใน Inbox ของเพจ แต่ถ้าเราสังเกตดู Objective ของ Messages จะพบว่า Facebook เค้าจัดให้อยู่ในระดับของ Consideration ถ้าเปรียบกับขั้นตอนในการตัดสินใจซื้อ ก็คือ กำลังพิจารณาตัวเลือก หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ จึงทำให้เกิดปัญหาว่า ยิง Ads ข้อความ แต่ก็ไม่ค่อยได้ยอดขาย ได้แต่คนทักเต็มไปหมดนั่นเอง

รูปแบบของ Ads Objective ใหม่

  1. Awareness >> Reach , Brand Awareness
  2. Engagement >> Post Engagement , Video Views , Messages , Conversions
  3. App Promotion >> App Installs
  4. Traffic
  5. Lead >> Lead Generation , Messages , Conversions
  6. Sales >> Conversion , Catalog Sales , Store Traffic

ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า Objective สำคัญหลักๆ ยังอยู่กันครบ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อ และจัดหมวดหมู่ใหม่เท่านั้น เพื่อแยกให้เห็นชัดเจนว่า ในเวลายิงโฆษณานั้น เป้าหมายหลักของเราคืออะไร เช่น Awareness เน้นคนเข้าถึงโฆษณา , Engagement เน้นการมีส่วนร่วม แต่ถ้าอยากให้เกิดยอดขาย ก็ต้องเป็น Lead หรือ Sales

Facebook เริ่มแสดงให้เห็นว่าถ้าคุณอยากจะได้ยอดขายในตอนท้าย คุณต้องทำ Conversions และ Event เพื่อทำให้ Ads รู้ว่า Conversion Locations ไหน ที่เป็นปลายทางสำคัญที่ธุรกิจเราต้องการ เช่น การกรอกฟอร์มสำเร็จ , การติดต่อกับเรา , การหยิบสินค้าใส่ตะกร้าในเว็บ E-Commerce หรือการ View Content หน้าจบการสั่งซื้อหลังจากโอนเงินสำเร็จแล้วซึ่งจะทำให้ Ads ของเรานำส่งไปหาลูกค้าที่มี Potential ได้มากขึ้น แก้ปัญหาคนทักแล้วไม่ซื้อหรือ คนกดไลค์ แล้วหายไปได้ดีขึ้นนั่นหมายความว่า ถึงเวลาที่ทุกคนควรให้ความสำคัญกับการทำ Website เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก Ads Conversion ได้ดีที่สุด เพราะเราคาดหวังยอดขายจาก Ads Messages เพียงอย่างเดียวได้ยากขึ้นนั่นเอง

—————————-

หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาและทีมทำการตลาดออนไลน์ เอเจนซี่โฆษณา สร้างยอดขายทะลุเป้าแบบก้าวกระโดด ติดต่อเราเพื่อให้ธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายที่ใฝ่ฝัน

ติดต่อ เอเจนซี่โฆษณา ได้ที่ : Tel. 094-616-3651

Line OA : @unicronet

#Unicronet #PerformanceMarketing #digital agency #เอเจนซี่โฆษณา #Marketing agency

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความที่น่าสนใจอื่นๆของเรา

ถ้าต้องหานิยามสั้นๆ ให้กับปี 2025 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ผมคิดว่าคำว่าปีปราบเซียนของเหล่าเอเจนซี่น่าจะเป็นคำที่เหมาะที่สุดเลยล่ะครับ เพราะถ้ามองย้อนกลับไป 12 เดือนที่ผ่านมา ปีนี้เป็นปีที่มีเรื่องราวหนักๆ เยอะมากจริงๆ ครับ ทั้งสภาวะเศรษฐกิจที่บีบหัวใจ ค่าครองชีพที่พุ่งสูงสวนทางรายรับ แถมยังมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างเรื่องแผ่นดินไหว น้ำท่วม สภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีทั้งปี และความกังวลเรื่อง AI ที่เข้ามาผสมโรงอีก แต่ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น ผมกลับมองเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจซ่อนอยู่ครับ เพราะผมเชื่อว่าปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะไม่ใช่ปีแห่งความสิ้นหวัง แต่จะเป็นปีแห่งการปรับตัว และเติบโตไปอีกขั้นของวงการเอเจนซี่โฆษณา และทีมรับทำการตลาดเลยล่ะครับ วันนี้ผมเลยอยากหยิบเอาข้อมูลในการทำการตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้เตรียมตัวรับมือกับกระแสลมที่กำลังเปลี่ยนทิศครับ เอเจนซี่ต้องรู้ “ความสบายใจ” เป็นสินค้าใหม่ที่คนยอมจ่าย เพราะถ้าเราสังเกตกันดูดีๆ จะเห็นได้ชัดเลยว่า ในขณะที่เราบ่นกันว่าเศรษฐกิจไม่ดี เงินฝืดแต่ร้านหมูกระทะ ร้านอาหารดีๆ หรือคาเฟ่สวยๆ กลับยังมีลูกค้าต่อคิวกันยาวเหยียดอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเหตุผลของเรื่องนี้มันสะท้อนอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่าแค่เรื่องกินเรื่องเที่ยวครับ โดยเรื่องพวกนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคนไทยติดกินติดเที่ยวกันหรอกนะครับ แต่มันสะท้อนให้เห็นถึงทางออก ของคนในยุคนี้มากกว่า เพราะในวันที่ความเครียดรุมเร้าจากทุกทิศทาง หลายๆ คนจึงเลือกที่จะระบายความเครียดไปกับการซื้อความสุขรายวัน เพื่อชุบชูใจที่เหนื่อยล้าแทนมากกว่านั่นเอง ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีการยืนยันชัดเจนจากงาน SME Thailand Future Day 2026 ที่ผมได้มีโอกาสไปนั่งฟังมาครับ […]

เอเจนซี่

ในโลกของการทำธุรกิจยุคนี้ ผมว่ามันมีจุดหนึ่งที่เจ้าของกิจการหลายคนต้องเจอครับ คือจุดที่งานการตลาดมันเริ่มเยอะ และซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะดูแลเองไหว จนมาถึงทางแยกที่ต้องตัดสินใจว่า จะจ้างเอเจนซี่มืออาชีพที่เขารับทำการตลาดจากข้างนอก หรือจะลงทุนสร้างทีมทำการตลาดออนไลน์ in house ของตัวเองดี ซึ่งจากประสบการณ์ของผมนะครับ ผมบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดแบบตายตัวหรอกครับ ว่าแบบไหนมันดีกว่ากัน หลายคนอาจจะรีบควักงบประมาณมาเป็นตัวตั้ง หรือมองแค่ว่างานมันยากง่ายแค่ไหน แต่ในมุมของผม ผมมองว่ามันมีอะไรให้เราคิดมากกว่านั้นเยอะครับ เพราะสุดท้ายแล้วทั้งสองทางเลือกนี้ต่างก็มีจุดแข็ง และข้อจำกัดที่แตกต่างกันชัดเจน วันนี้ผมเลยตั้งใจจะมาแจกแจงให้เห็นภาพกันชัดๆ ไปเลยครับว่าทั้งเอเจนซี่โฆษณาที่เขารับทำการตลาด และทีมทำการตลาดออนไลน์ in house นั้นต่างกันยังไง แต่ก่อนที่เราจะไปลงลึกถึงขั้นเทียบกันจุดต่อจุดว่าใครดีกว่าใครคุ้มกว่า ผมว่าเราควรเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าครับ ว่าบทบาทจริงๆ ของทั้งสองฝ่ายนี้เขาทำอะไรกันแน่ บทบาทของเอเจนซี่ ถ้าให้ผมนิยามแบบเข้าใจง่ายที่สุด เอเจนซี่ก็คือบริษัทภายนอกที่รับทำการตลาดให้กับธุรกิจอื่นๆ นั่นแหละครับ โดยหน้าที่หลักๆ ของพวกเขาก็คือการเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการทำการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะ ซึ่งสำหรับเอเจนซี่เองก็มีหลายแบบครับ มีทั้งที่ที่เน้นทำการตลาดออนไลน์โดยการยิงโฆษณาเพื่อให้วัดผลได้โดยตรง หรือบางที่ก็อาจจะเป็นเอเจนซี่โฆษณาที่เน้นการผลิตสื่อโฆษณาโดยเฉพาะครับ ซึ่งปกติแล้วในเอเจนซี่โฆษณาที่หนึ่ง ก็จะรวมคนเก่งๆ หลายสายงานไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการวางแผนกลยุทธ์ ด้านการสื่อสารแบรนด์ หรือด้านการคิดแคมเปญเจ๋งๆ ออกมา ซึ่งเป้าหมายหลักของพวกเขาก็คือการช่วยให้ธุรกิจของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจให้เกิดขึ้นจริงครับ ความรู้การตลาดที่ Unicronet แนะนำ ถ้าคุณมีความสนใจ และอยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และความสำคัญของเอเจนซี่ให้มากขึ้น ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลยครับ 🔗 […]

ASO

ในช่วงปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าคนทำ SEO โดยเฉพาะเพื่อนๆ ในสายเอเจนซี่ที่รับทำการตลาด น่าจะรู้สึกเหมือนกันว่า แนวทางการทำงานของเรามันเปลี่ยนไปแบบที่เราเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว เราอาจจะเคยเห็นตัวเลขทราฟฟิกที่เคยนิ่งกลับสวิงอย่างน่าใจหาย คีย์เวิร์ดที่เคยสร้างผลลัพธ์ได้ดีเยี่ยมเริ่มให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนเดิม หรือบางทีคอนเทนต์ของเราก็ถูก AI ดึงไปตอบในหน้าแรกโดยที่ User ไม่ต้องคลิกเข้ามาเลยด้วยซ้ำ จากประสบการณ์ที่ผมคลุกคลีอยู่กับข้อมูลหลังบ้านของลูกค้าหลายเจ้าที่ผมทำการตลาดออนไลน์ให้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ แต่มันคือสัญญาณแรกของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นั่นคือการที่ AI เข้ามามีบทบาทในโลกของ Search Engine อย่างเต็มตัวแล้ว และเพื่อจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เราจะใช้แค่ความรู้ SEO แบบเดิมที่เคยทำกันมาไม่ได้อีกต่อไป วันนี้ผมจึงอยากชวนทุกคนมาเปิดโลกของ ASEO กลยุทธ์ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญให้เอเจนซี่อย่างเราเติบโตในยุคใหม่นี้ไปด้วยกันครับ จาก SEO สู่ ASEO เอเจนซี่จะทำยังไงเมื่อหลักการเดิมกำลังเปลี่ยนไป หลังจากที่เราเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ผมเล่าไปในตอนต้นแล้ว คราวนี้เรามาลงลึกกันอีกนิดดีกว่าครับว่าหลักการเดิมที่เราเคยยึดถือกันมาตลอดมันกำลังถูกท้าทายยังไงบ้าง ถ้าเราลองมองย้อนกลับไป แกนหลักของ SEO ที่พวกเราชาวเอเจนซี่โฆษณาใช้วางกลยุทธ์ทำการตลาดออนไลน์ให้ลูกค้าก็มีอยู่ไม่กี่อย่างใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการทำ On-Page ให้แน่น การสร้าง Off-Page ที่แข็งแกร่ง หรือการวิเคราะห์ Keyword Research เพื่อหาคำที่ใช่ที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราทำซ้ำๆ จนเชี่ยวชาญ และมันก็เคยให้ผลลัพธ์ที่ดีมาตลอด […]

เอเจนซี่โฆษณา

    ในฐานะเอเจนซี่ คุณเคยรู้สึกไหมว่ายุคที่คอนเทนต์เต็มไปหมดแบบนี้ การจะทำให้เสียงของแบรนด์ดังไปถึงลูกค้ากลับเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที เหมือนกับการตะโกนในที่ที่ไม่มีใครฟัง เพราะความคาดหวังสูงขึ้น ทำให้วิธีแบบเดิมๆ ไม่สามารถเข้าไปนั่งในใจลูกค้าได้อีกต่อไป และสถานการณ์แบบนี้เองที่ทำให้การ ทำการตลาดออนไลน์แบบการลองผิดลองถูก การยิงแอดที่ให้ผลลัพธ์ไม่แน่นอน คือสัญญาณเตือน ว่าถึงเวลาที่เอเจนซี่โฆษณาต้องปรับตัวครั้งใหญ่แล้ว      แต่มาตรฐานใหม่ของเอเจนซี่ในปี 2025 นี้ ไม่ได้หมายถึงการมีเครื่องมือทันสมัยแค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่คือการมีโมเดลการทำงานที่ฉลาดขึ้น ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Marketing Intelligence ซึ่งประกอบด้วย 3 ลำดับชั้น ดังนี้ ชั้นที่ 1 รากฐานของข้อมูลคือหัวใจสำคัญ     ถือเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน เพราะถ้ารากฐานนี้ไม่แข็งแรงพอ ทุกสิ่งที่สร้างต่อยอดขึ้นไปก็อาจพังลงมาได้ เป้าหมายหลักจึงไม่ใช่แค่การที่เอเจนซี่โฆษณาสามารถเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด แต่คือการนำข้อมูล First-party data ที่มีอยู่ มาสร้างเป็น Customer Persona ที่ชัดเจน และถูกต้อง เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำ      ซึ่งหัวใจสำคัญที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ คือการรวมข้อมูล insight จากทุกช่องทาง เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า […]