กลยุทธ์ใหม่เอเจนซี่ 2026 ต้องเน้นความชอบมากกว่าฟังก์ชัน

Table of Contents

     ถ้าต้องหานิยามสั้นๆ ให้กับปี 2025 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป ผมคิดว่าคำว่าปีปราบเซียนของเหล่าเอเจนซี่น่าจะเป็นคำที่เหมาะที่สุดเลยล่ะครับ เพราะถ้ามองย้อนกลับไป 12 เดือนที่ผ่านมา ปีนี้เป็นปีที่มีเรื่องราวหนักๆ เยอะมากจริงๆ ครับ ทั้งสภาวะเศรษฐกิจที่บีบหัวใจ ค่าครองชีพที่พุ่งสูงสวนทางรายรับ แถมยังมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างเรื่องแผ่นดินไหว น้ำท่วม สภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีทั้งปี และความกังวลเรื่อง AI ที่เข้ามาผสมโรงอีก 

     แต่ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น ผมกลับมองเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจซ่อนอยู่ครับ เพราะผมเชื่อว่าปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะไม่ใช่ปีแห่งความสิ้นหวัง แต่จะเป็นปีแห่งการปรับตัว และเติบโตไปอีกขั้นของวงการเอเจนซี่โฆษณา และทีมรับทำการตลาดเลยล่ะครับ 

     วันนี้ผมเลยอยากหยิบเอาข้อมูลในการทำการตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้เตรียมตัวรับมือกับกระแสลมที่กำลังเปลี่ยนทิศครับ

เอเจนซี่ต้องรู้ “ความสบายใจ” เป็นสินค้าใหม่ที่คนยอมจ่าย

     เพราะถ้าเราสังเกตกันดูดีๆ จะเห็นได้ชัดเลยว่า ในขณะที่เราบ่นกันว่าเศรษฐกิจไม่ดี เงินฝืดแต่ร้านหมูกระทะ ร้านอาหารดีๆ หรือคาเฟ่สวยๆ กลับยังมีลูกค้าต่อคิวกันยาวเหยียดอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเหตุผลของเรื่องนี้มันสะท้อนอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่าแค่เรื่องกินเรื่องเที่ยวครับ 

     โดยเรื่องพวกนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคนไทยติดกินติดเที่ยวกันหรอกนะครับ แต่มันสะท้อนให้เห็นถึงทางออก ของคนในยุคนี้มากกว่า เพราะในวันที่ความเครียดรุมเร้าจากทุกทิศทาง หลายๆ คนจึงเลือกที่จะระบายความเครียดไปกับการซื้อความสุขรายวัน เพื่อชุบชูใจที่เหนื่อยล้าแทนมากกว่านั่นเอง

     ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีการยืนยันชัดเจนจากงาน SME Thailand Future Day 2026 ที่ผมได้มีโอกาสไปนั่งฟังมาครับ โดยใน Session ของคุณอรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ ได้เปิดเผยข้อมูลชุดหนึ่งที่ทำให้ผมเห็นภาพชัดเลยครับว่า พฤติกรรมการใช้เงินของคนไทยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ซึ่งข้อมูลนั้นระบุว่าในช่วงปี 2023 – 2025 สินค้าในหมวดเทคโนโลยีที่เคยเป็นของที่คนชอบใช้กันมาตลอด อย่างโทรศัพท์มือถือ กลับมียอดเติบโตลดลง -2% และเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง -1% แต่ในทางกลับกัน สินค้าที่เติมเต็มความสุขรายวันอย่าง เครื่องดื่ม กลับโตพุ่งถึง +9% ตามมาด้วย อาหาร และของใช้ในบ้าน ที่กอดคอกันโตขึ้น +7% เท่ากันเป๊ะเลยครับ

     ซึ่งจากตัวเลขเหล่านี้ มันแสดงให้เห็นเลยครับว่าผู้บริโภคไม่ได้เลิกใช้เงินกับทุกเรื่องนะครับ เพียงแต่เขาเปลี่ยนการใช้เงินมาเป็นการจ่ายเพื่อฮีลใจตัวเองมากขึ้นมากกว่า และนี่แหละครับ ที่จะเป็นโจทย์ใหม่ที่ท้าทายสำหรับเอเจนซี่โฆษณา และคนที่รับทำการตลาดในปีหน้า เพราะสินค้าคุณภาพดี ฟังก์ชันครบ มันกลายเป็นแค่มาตรฐานขั้นต่ำไปแล้ว แต่สิ่งที่ลูกค้ามองหาจริงๆ คือความสบายใจ และความชอบต่างหากครับ และเมื่อเราลองเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ก็จะพบว่าความต้องการเหล่านี้ถูกสะท้อนออกมาผ่าน 4 กลุ่มผู้บริโภคหลัก ที่กำลังจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญของตลาดปี 2026 เลยล่ะครับ แล้วจะมีกลุ่มผู้บริโภคแบบไหนบ้าง มาดูกันเลย

เปิดลิสต์ 4 กลุ่มลูกค้าพลังซื้อสูงที่แบรนด์ห้ามมองข้าม

1.กลุ่มนักช้อปฉลาดเลือก จ่ายแพงได้ แต่ต้องคุ้มค่าที่สุด

     มาเริ่มกันที่กลุ่มแรกที่เป็นฐานประชากรส่วนใหญ่ของประเทศกันก่อนดีกว่าครับ โดยสิ่งที่ทำให้คนกลุ่มนี้น่าจับตามองมากๆ คือพฤติกรรมการใช้จ่าย ที่แม้มองว่าราคายังคงเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อก็จริง แต่พวกเขากลับมองว่าของที่ราคาถูกที่สุด อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไปแล้วครับ 

     เพราะจากข้อมูลระบุว่ามีคนไทยกว่า 40% ยอมที่จะขยับงบจ่ายเพิ่มขึ้นได้ ถ้าเขามั่นใจว่าของชิ้นนั้นมันดีกว่า หรือคุ้มค่ากว่ามาตรฐานทั่วไปจริงๆ ตัวอย่างเช่น การยอมจ่ายเพิ่มเพื่อน้ำยาล้างจานสูตรถนอมมือที่ไม่กัดผิว หรือการเลือกซื้อกระดาษทิชชูเกรดพรีเมียมที่หนานุ่มกว่าเพื่อสุขอนามัยที่ดี ตรงนี้แหละที่เป็นโอกาสให้คนรับทำการตลาดต้องรีบหยิบมาปรับกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ให้ทัน

     เพราะคนกลุ่มนี้เขาภาคภูมิใจในการใช้จ่ายอย่างฉลาดมาเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นโจทย์ใหญ่ของแบรนด์ หรือเอเจนซี่โฆษณา จึงเป็นการเปลี่ยนจากการแข่งกันตัดราคา มาเป็นการแข่งกันที่ความคุ้มค่า โดยต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นด้วยข้อมูลเปรียบเทียบแบบชัดๆ เลยว่า เมื่อเขาจ่ายเพิ่มขึ้น เขาจะได้อะไรกลับไปที่ เป็นสิ่งที่ดีกว่า หรือเหนือกว่าสินค้าอื่นๆ แบบเดียวกันครับ

2. กลุ่มคนโสดรักอิสระ เน้นอะไรง่ายๆ ไม่วุ่นวาย

     ต่อมาคือกลุ่มคนโสดที่ถือว่ามีสัดส่วนมากถึง 1 ใน 4 ของประชากรไทย และมีแววว่าเทรนด์การอยู่คนเดียวจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วด้วยครับ ดังนั้นพฤติกรรมที่น่าจับตามองของคนกลุ่มนี้คือ โดยพื้นฐานพวกเขาจะรักอิสระขั้นสุด ชอบกินข้าวคนเดียว เที่ยวคนเดียวครับ เพราะรู้สึกว่ามันจัดการชีวิตง่ายกว่า ไม่ต้องรอใคร 

     ซึ่งก็จะส่งผลมาถึงการเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ด้วยเช่นกัน เช่น การเลือกซื้อเครื่องปรุงอาหารไซส์มินิสำหรับทำกินคนเดียว หรือการมองหาคอนโดที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้เพื่อเป็นเพื่อนคลายเหงา มากกว่าการมองหาคอนโดสำหรับครอบครัว ซึ่งเทรนด์เหล่านี้นี่แหละ ที่เป็นสัญญาณบอกให้เอเจนซี่โฆษณา ที่ทำการตลาดออนไลน์ ต้องเริ่มปรับคอนเทนต์ให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์แบบนี้มากขึ้น ด้วยการตีโจทย์คำว่าอิสระให้แตกครับ 

     นั่นหมายถึงว่าสินค้าหรือบริการของคุณจะต้องดูมีความ Friendly กับการใช้คนเดียว มีวิธีใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน และต้องทำให้เขารู้สึกปลอดภัยในการใช้บริการคนเดียวมากที่สุดครับ เช่น ร้านอาหารที่มีโซนที่นั่งเดี่ยวแบบส่วนตัว หรือทัวร์ที่เที่ยวคนเดียวก็ไม่เหงา ซึ่งจริงๆ แล้ว ก็พอมีบริการพวกนี้ให้เห็นกันบ้างแล้วในปีนี้ครับ เพียงแต่ว่าทีมรับทำการตลาด อาจจะต้องหยิบมาโปรโมตให้มากกว่านี้

3. กลุ่มผู้ใหญ่หัวใจเด็ก ใช้การเล่นบำบัดความเครียด

     กลุ่มที่สามนี่ สารภาพเลยว่าตอนผมฟังบรรยาย ก็แอบเห็นภาพภาพตัวเอง และเพื่อนๆ อยู่เหมือนกันครับ เพราะประชากรส่วนมากของกลุ่มนี้ ก็หนีไม่พ้นกลุ่ม Gen Z และ Gen Y ที่ทำงานหนักเครียดๆ แล้วต้องหาทางระบายอารมณ์นั่นแหละครับ แน่นอนว่าคนที่ทำงานในวงการเอเจนซี่โฆษณา อย่างเราๆ ก็น่าจะเป็นลูกค้ากลุ่มนี้เหมือนกันครับ

     เพราะด้วยค่านิยมของสมัยนี้ หลายๆ คนต่างมองว่าความเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้วัดกันที่ความเคร่งขรึม เงียบสงบ และภูมิฐานอีกต่อไปแล้วครับ แต่มันคือการที่เราโตพอที่จะสามารถสานฝันในวัยเด็ก หรือความสุขเล็กๆ แบบเด็กๆ ได้ด้วยตัวเองแล้วต่างหาก ทำให้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราจึงเห็นปรากฏการณ์ที่คนวัยทำงานแห่กันไปซื้อกล่องสุ่มอาร์ตทอย หรือสะสมของเล่นกันเป็นว่าเล่นนั่นแหละครับ

     ซึ่งในแง่ของการวางแผนทำการตลาดออนไลน์ ผมขอบอกเลยว่านี่คือโอกาสทองครับ เพราะแบรนด์ต่างๆ จะสามารถเล่นกับความทรงจำวัยเด็ก หรือสร้างเรื่องราวความสนุกสนานผ่านสินค้าของแบรนด์เพื่อช่วยให้เขารู้สึกว่า สินค้า และบริการของเรา สร้างความสุข และบำบัดจิตใจให้พวกเขาได้ เพราะสิ่งที่คนกลุ่มนี้ต้องการที่สุด คือพื้นที่ปลอดภัยทางความรู้สึกนั่นเอง

4.กลุ่มรุ่นใหญ่วัยเก่า ที่พร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่ดี

     กลุ่มสุดท้ายผมขอเรียกว่ากลุ่มรุ่นใหญ่ Gen X และ Baby Boomer ครับ เป็นกลุ่มที่แม้แต่เอเจนซี่โฆษณา หรือทีมรับทำการตลาดบางแห่งอาจมองข้ามไปบ้าง แต่ขอบอกเลยว่าจริงๆ แล้วนี่คือกลุ่มที่กระเป๋าหนัก และพร้อมจ่ายได้มากที่สุดเลยล่ะครับ 

     เพราะจากสถิติแล้ว ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นวัยที่มีความสุขในชีวิตสูงมาก รวมถึงมีทั้งเวลา และกำลังทรัพย์ ที่พร้อมจะเปย์เพื่อการพักผ่อน และการท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม ตัวอย่างเช่น การจองทริปเรือสำราญเพื่อพักผ่อนยาวๆ หรือการเข้าคอร์สดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อยืดอายุขัย ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญที่ทีมรับทำการตลาดสายสุขภาพ และท่องเที่ยวต้องจับตามอง และวางแผนทำการตลาดออนไลน์ให้ดีเป็นพิเศษเลยครับ

     ดังนั้นการทำการตลาดออนไลน์กับกลุ่มนี้ ผมมองว่ามันต้องต้องเปลี่ยนจากการขายของว่าสินค้า หรือบริการของเราคืออะไร เป็นการเล่าประสบการณ์ที่เขาจะได้รับ จากสินค้า หรือบริการแทนครับ รวมถึงการเข้าหาด้วยการทำคอนเทนต์เชิงอารมณ์ ให้เขารู้สึกว่า ชีวิตเขาจะมีคุณค่า ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ หรือได้ประโยชน์ต่อร่างกายตัวเองได้ ซึ่งถ้าแบรนด์จับจุดนี้ได้ก็อาจได้ Brand Loyalty เพิ่มขึ้นด้วยครับ

ความรู้การตลาดที่ Unicronet แนะนำ

ถ้าอยากรู้ว่าการมี Brand Loyalty ดีต่อแบรนด์ยังไง ทำไมหลายๆ เจ้าถึงพยายามปั้นให้ลูกค้าภักดีต่อแบรนด์ขนาดนั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลยครับ

🔗 รู้จัก! Brand Loyalty ทำไมความภักดีต่อแบรนด์ถึงสำคัญในยุคดิจิทัล

บทสรุป

      อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผมเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะพอเห็นภาพรวมเหมือนกับผมนะครับว่า ในปี 2026 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เกมการแข่งขันของโลกธุรกิจมันได้เปลี่ยนรูปแบบไปยังไงบ้าง ซึ่งหัวใจสำคัญนั้น อาจจะไม่ใช่แค่การแข่งกันผลิตสินค้าดีๆ ออกมาวางขาย แล้วให้เอเจนซี่โฆษณา หรือทีมรับทำการตลาด ช่วยวางแผนทำการตลาดออนไลน์แบบขายสรรพคุณสินค้าตรงๆ เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป 

    แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการแข่งกันสร้างความหมายบางอย่าง ให้เข้าไปนั่งอยู่ในใจของลูกค้าให้ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ได้ฉลาดเลือก ความรู้สึกมีอิสระ ความสบายใจ หรือแม้กระทั่งความภาคภูมิใจในการใช้สินค้า หรือบริการนั้นๆ

     สุดท้ายนี้ผมอยากจะฝากทิ้งท้ายไว้สักนิดว่าในตอนนี้โลกของธุรกิจหมุนเร็วมากเสียจนน่าตกใจจริงๆ ครับ เทรนด์การตลาดแทบจะเปลี่ยนปีต่อปีเลย ดังนั้นสูตรสำเร็จเดิมๆ ที่เราเคยใช้ อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนเก่าอีกต่อไปแล้วก็ได้ครับ ดังนั้นการลองเปิดใจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการรับทำการตลาด หรือลองมองหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นเอเจนซี่โฆษณาที่มีความมืออาชีพ เข้ามาช่วยวิเคราะห์ และวางกลยุทธ์ใหม่ๆ ก็อาจจะเป็นทางลัดสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณปรับตัวได้ และไม่หลุดออกจากสนามแข่งแห่งนี้ก็ได้นะครับ

หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาและทีมรับทำการตลาด เอเจนซี่โฆษณา สร้างยอดขายทะลุเป้าแบบก้าวกระโดด ติดต่อเราเพื่อให้ธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายที่ใฝ่ฝัน

ติดต่อรับคำปรึกษาฟรี !!!

Tel : 094-616-3651

Line OA : @unicronet

#Unicronet #PerformanceMarketing #digital agency #เอเจนซี่โฆษณา #Marketing agency #ทำการตลาดออนไลน์ #Content marketing

ผู้เขียนบทความ

นิค (ขาวดำ)

ชญานิศ จิตรีปลื้ม (นิก)

     Founder of Unicronet Agency และ Right Lane Academy ที่ปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลที่เชื่อว่าทุกกลยุทธ์ต้องวัดผลได้จริง ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ มีความเชี่ยวชาญในการใช้ AI และ Martech เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจน และจับต้องได้

     (Digital Marketing Strategy ) ประสบการณ์วางแผนกลยุทธ์ทางด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะ Online Platform ยอดนิยม เช่น Facebook ads , Google ads , SEO , Tiktok , Line , Youtube , Marketplace Ads มากกว่า 500+ Campaign

     (Digital Media Tools ) ประสบการณ์ด้าน Consult เทคนิคเชิงลึกสำหรับ Digital Media Tools เพื่อให้ทุกงบการลงทุนโฆษณาคุ้มค่ามากที่สุด อาทิเช่น การเพิ่ม Conversion ให้ธุรกิจ , เทคนิค ทำอย่างไรให้ CPA ราคาถูกลง , มีคนทักเยอะ ไม่มีคุณภาพ ปิดการขายไม่ได้ , สินค้าเสี่ยง Policy พร้อมเทคนิคการยิงแอดยังไงให้ไม่โดน Reject

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความที่น่าสนใจอื่นๆของเรา

เอเจนซี่

ในโลกของการทำธุรกิจยุคนี้ ผมว่ามันมีจุดหนึ่งที่เจ้าของกิจการหลายคนต้องเจอครับ คือจุดที่งานการตลาดมันเริ่มเยอะ และซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะดูแลเองไหว จนมาถึงทางแยกที่ต้องตัดสินใจว่า จะจ้างเอเจนซี่มืออาชีพที่เขารับทำการตลาดจากข้างนอก หรือจะลงทุนสร้างทีมทำการตลาดออนไลน์ in house ของตัวเองดี ซึ่งจากประสบการณ์ของผมนะครับ ผมบอกได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิดแบบตายตัวหรอกครับ ว่าแบบไหนมันดีกว่ากัน หลายคนอาจจะรีบควักงบประมาณมาเป็นตัวตั้ง หรือมองแค่ว่างานมันยากง่ายแค่ไหน แต่ในมุมของผม ผมมองว่ามันมีอะไรให้เราคิดมากกว่านั้นเยอะครับ เพราะสุดท้ายแล้วทั้งสองทางเลือกนี้ต่างก็มีจุดแข็ง และข้อจำกัดที่แตกต่างกันชัดเจน วันนี้ผมเลยตั้งใจจะมาแจกแจงให้เห็นภาพกันชัดๆ ไปเลยครับว่าทั้งเอเจนซี่โฆษณาที่เขารับทำการตลาด และทีมทำการตลาดออนไลน์ in house นั้นต่างกันยังไง แต่ก่อนที่เราจะไปลงลึกถึงขั้นเทียบกันจุดต่อจุดว่าใครดีกว่าใครคุ้มกว่า ผมว่าเราควรเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าครับ ว่าบทบาทจริงๆ ของทั้งสองฝ่ายนี้เขาทำอะไรกันแน่ บทบาทของเอเจนซี่ ถ้าให้ผมนิยามแบบเข้าใจง่ายที่สุด เอเจนซี่ก็คือบริษัทภายนอกที่รับทำการตลาดให้กับธุรกิจอื่นๆ นั่นแหละครับ โดยหน้าที่หลักๆ ของพวกเขาก็คือการเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการทำการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะ ซึ่งสำหรับเอเจนซี่เองก็มีหลายแบบครับ มีทั้งที่ที่เน้นทำการตลาดออนไลน์โดยการยิงโฆษณาเพื่อให้วัดผลได้โดยตรง หรือบางที่ก็อาจจะเป็นเอเจนซี่โฆษณาที่เน้นการผลิตสื่อโฆษณาโดยเฉพาะครับ ซึ่งปกติแล้วในเอเจนซี่โฆษณาที่หนึ่ง ก็จะรวมคนเก่งๆ หลายสายงานไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการวางแผนกลยุทธ์ ด้านการสื่อสารแบรนด์ หรือด้านการคิดแคมเปญเจ๋งๆ ออกมา ซึ่งเป้าหมายหลักของพวกเขาก็คือการช่วยให้ธุรกิจของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจให้เกิดขึ้นจริงครับ ความรู้การตลาดที่ Unicronet แนะนำ ถ้าคุณมีความสนใจ และอยากศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และความสำคัญของเอเจนซี่ให้มากขึ้น ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลยครับ 🔗 […]

ASO

ในช่วงปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าคนทำ SEO โดยเฉพาะเพื่อนๆ ในสายเอเจนซี่ที่รับทำการตลาด น่าจะรู้สึกเหมือนกันว่า แนวทางการทำงานของเรามันเปลี่ยนไปแบบที่เราเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว เราอาจจะเคยเห็นตัวเลขทราฟฟิกที่เคยนิ่งกลับสวิงอย่างน่าใจหาย คีย์เวิร์ดที่เคยสร้างผลลัพธ์ได้ดีเยี่ยมเริ่มให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนเดิม หรือบางทีคอนเทนต์ของเราก็ถูก AI ดึงไปตอบในหน้าแรกโดยที่ User ไม่ต้องคลิกเข้ามาเลยด้วยซ้ำ จากประสบการณ์ที่ผมคลุกคลีอยู่กับข้อมูลหลังบ้านของลูกค้าหลายเจ้าที่ผมทำการตลาดออนไลน์ให้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ แต่มันคือสัญญาณแรกของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นั่นคือการที่ AI เข้ามามีบทบาทในโลกของ Search Engine อย่างเต็มตัวแล้ว และเพื่อจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เราจะใช้แค่ความรู้ SEO แบบเดิมที่เคยทำกันมาไม่ได้อีกต่อไป วันนี้ผมจึงอยากชวนทุกคนมาเปิดโลกของ ASEO กลยุทธ์ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญให้เอเจนซี่อย่างเราเติบโตในยุคใหม่นี้ไปด้วยกันครับ จาก SEO สู่ ASEO เอเจนซี่จะทำยังไงเมื่อหลักการเดิมกำลังเปลี่ยนไป หลังจากที่เราเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ผมเล่าไปในตอนต้นแล้ว คราวนี้เรามาลงลึกกันอีกนิดดีกว่าครับว่าหลักการเดิมที่เราเคยยึดถือกันมาตลอดมันกำลังถูกท้าทายยังไงบ้าง ถ้าเราลองมองย้อนกลับไป แกนหลักของ SEO ที่พวกเราชาวเอเจนซี่โฆษณาใช้วางกลยุทธ์ทำการตลาดออนไลน์ให้ลูกค้าก็มีอยู่ไม่กี่อย่างใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการทำ On-Page ให้แน่น การสร้าง Off-Page ที่แข็งแกร่ง หรือการวิเคราะห์ Keyword Research เพื่อหาคำที่ใช่ที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราทำซ้ำๆ จนเชี่ยวชาญ และมันก็เคยให้ผลลัพธ์ที่ดีมาตลอด […]

เอเจนซี่โฆษณา

    ในฐานะเอเจนซี่ คุณเคยรู้สึกไหมว่ายุคที่คอนเทนต์เต็มไปหมดแบบนี้ การจะทำให้เสียงของแบรนด์ดังไปถึงลูกค้ากลับเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที เหมือนกับการตะโกนในที่ที่ไม่มีใครฟัง เพราะความคาดหวังสูงขึ้น ทำให้วิธีแบบเดิมๆ ไม่สามารถเข้าไปนั่งในใจลูกค้าได้อีกต่อไป และสถานการณ์แบบนี้เองที่ทำให้การ ทำการตลาดออนไลน์แบบการลองผิดลองถูก การยิงแอดที่ให้ผลลัพธ์ไม่แน่นอน คือสัญญาณเตือน ว่าถึงเวลาที่เอเจนซี่โฆษณาต้องปรับตัวครั้งใหญ่แล้ว      แต่มาตรฐานใหม่ของเอเจนซี่ในปี 2025 นี้ ไม่ได้หมายถึงการมีเครื่องมือทันสมัยแค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่คือการมีโมเดลการทำงานที่ฉลาดขึ้น ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Marketing Intelligence ซึ่งประกอบด้วย 3 ลำดับชั้น ดังนี้ ชั้นที่ 1 รากฐานของข้อมูลคือหัวใจสำคัญ     ถือเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน เพราะถ้ารากฐานนี้ไม่แข็งแรงพอ ทุกสิ่งที่สร้างต่อยอดขึ้นไปก็อาจพังลงมาได้ เป้าหมายหลักจึงไม่ใช่แค่การที่เอเจนซี่โฆษณาสามารถเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด แต่คือการนำข้อมูล First-party data ที่มีอยู่ มาสร้างเป็น Customer Persona ที่ชัดเจน และถูกต้อง เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำ      ซึ่งหัวใจสำคัญที่จะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ คือการรวมข้อมูล insight จากทุกช่องทาง เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า […]

รับทำการตลาด

    ช่วงเทศกาลสำคัญ ถือเป็นโอกาสทางการตลาดที่เอเจนซี่และหลายๆ แบรนด์ต่างทุ่มกำลังกันสุดตัวเพื่อสร้างแคมเปญ และทำการตลาดออนไลน์ที่น่าจดจำไม่ว่าจะเป็นช่วงปีใหม่, วาเลนไทน์, หรือสงกรานต์ แต่เคยสงสัยไหมว่าท่ามกลางแคมเปญมากมายที่ออกมาพร้อมๆ กันพวกนี้ ทำไมมีแค่ไม่กี่แบรนด์ที่กลายเป็นกระแส ในขณะที่แคมเปญส่วนใหญ่กลับเงียบหายไป     จริงๆ แล้วความลับเบื้องหลังความสำเร็จนั้นไม่ได้อยู่ที่งบประมาณเสมอไป แต่อยู่ที่กลยุทธ์ทำการตลาดออนไลน์ Seasonal Marketing ของเอเจนซี่โฆษณา หรือทีมรับทำการตลาดใช้ในการออกแบบแคมเปญให้ออกมาได้รับความสนใจมากกว่าแค่การขาย เพื่อให้คนจดจำแบรนด์ไปได้อีกนาน     บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับมุมมองในการทำการตลาดออนไลน์แบบ Seasonal Marketing จากเอเจนซี่ เพื่อให้คุณสามารถเปลี่ยนเทศกาลธรรมดาให้กลายเป็นโอกาสทองของแบรนด์กัน 5 มุมมองการตลาดแบบเอเจนซี่ที่แบรนด์ควรรู้ 1.เทศกาลคือโอกาส แต่ Insight คือตัวแปร     เพราะถึงแม้ว่าแบรนด์ไหนๆ ก็สามารถทำการตลาดตามเทศกาลได้ แต่หัวใจที่ทำให้แคมเปญประสบความสำเร็จกลับไม่ใช่แค่การออกโปรโมชัน เพราะสิ่งที่เอเจนซี่โฆษณาหรือทีมรับทำการตลาด ให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกคือการเริ่มต้นด้วยการเจาะลึก consumer insight ก่อนเสมอ เพื่อหาคำตอบให้ได้ว่าผู้คนคาดหวังอะไรจากเทศกาลนั้นๆ เพราะผู้บริโภคมักจะจดจำแบรนด์จากความรู้สึกที่ได้รับมากกว่าโปรโมชันหรือส่วนลด     นั่นหมายความว่า คนไม่ได้จำแค่โปรโมชั่น แต่จำโมเมนต์ที่แบรนด์ทำให้พวกเขารู้สึกพิเศษในช่วงเทศกาลนั้นๆ ต่างหาก เอเจนซี่โฆษณาจึงมักเน้นการสร้างประสบการณ์ทางอารมณ์ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ เช่น […]