ในช่วงปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าคนทำ SEO โดยเฉพาะเพื่อนๆ ในสายเอเจนซี่ที่รับทำการตลาด น่าจะรู้สึกเหมือนกันว่า แนวทางการทำงานของเรามันเปลี่ยนไปแบบที่เราเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว เราอาจจะเคยเห็นตัวเลขทราฟฟิกที่เคยนิ่งกลับสวิงอย่างน่าใจหาย คีย์เวิร์ดที่เคยสร้างผลลัพธ์ได้ดีเยี่ยมเริ่มให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนเดิม หรือบางทีคอนเทนต์ของเราก็ถูก AI ดึงไปตอบในหน้าแรกโดยที่ User ไม่ต้องคลิกเข้ามาเลยด้วยซ้ำ
จากประสบการณ์ที่ผมคลุกคลีอยู่กับข้อมูลหลังบ้านของลูกค้าหลายเจ้าที่ผมทำการตลาดออนไลน์ให้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ แต่มันคือสัญญาณแรกของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นั่นคือการที่ AI เข้ามามีบทบาทในโลกของ Search Engine อย่างเต็มตัวแล้ว และเพื่อจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เราจะใช้แค่ความรู้ SEO แบบเดิมที่เคยทำกันมาไม่ได้อีกต่อไป วันนี้ผมจึงอยากชวนทุกคนมาเปิดโลกของ ASEO กลยุทธ์ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญให้เอเจนซี่อย่างเราเติบโตในยุคใหม่นี้ไปด้วยกันครับ
จาก SEO สู่ ASEO เอเจนซี่จะทำยังไงเมื่อหลักการเดิมกำลังเปลี่ยนไป
หลังจากที่เราเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ผมเล่าไปในตอนต้นแล้ว คราวนี้เรามาลงลึกกันอีกนิดดีกว่าครับว่าหลักการเดิมที่เราเคยยึดถือกันมาตลอดมันกำลังถูกท้าทายยังไงบ้าง
ถ้าเราลองมองย้อนกลับไป แกนหลักของ SEO ที่พวกเราชาวเอเจนซี่โฆษณาใช้วางกลยุทธ์ทำการตลาดออนไลน์ให้ลูกค้าก็มีอยู่ไม่กี่อย่างใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการทำ On-Page ให้แน่น การสร้าง Off-Page ที่แข็งแกร่ง หรือการวิเคราะห์ Keyword Research เพื่อหาคำที่ใช่ที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราทำซ้ำๆ จนเชี่ยวชาญ และมันก็เคยให้ผลลัพธ์ที่ดีมาตลอด
แต่ในวันนี้ การมาถึงของเทคโนโลยีอย่าง Google SGE (Search Generative Experience) นั้นกลับทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป และจากการที่ผมได้ไปศึกษาเรื่องนี้มา ผมพบว่า ตอนนี้การทำ On-Page ไม่ได้แข่งกันที่การใส่คีย์เวิร์ดให้ครบถ้วนเหมือนก่อนอีกแล้ว แต่มันกลายเป็นการแข่งขันว่า คอนเทนต์ของใครจะมีคุณภาพ และน่าเชื่อถือมากพอที่ AI จะดึงไปใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการตอบคำถามที่คนเสิร์ชมากกว่ากัน และในขณะเดียวกัน การทำ Off-Page ที่เคยเน้นเรื่องการสร้าง Backlink ก็ถูกลดทอนความสำคัญลง และให้น้ำหนักกับการสร้างความน่าเชื่อถือที่ทำให้ Google เชื่อมั่นในแบรนด์ของเราจริงๆ มากขึ้น
ก่อนหน้านี้ผมเพิ่งได้คุยกับรุ่นพี่ที่ทำเอเจนซี่โฆษณาที่รับทำการตลาดเหมือนกัน เขาก็บอกมาว่า “ตอนนี้เหมือนเราต้องเรียนรู้กติกาใหม่ทั้งหมดเลย” ซึ่งผมเห็นด้วยกับเขานะครับ ว่าตอนนี้ SEO มันกำลังวิวัฒนาการไปสู่รูปแบบใหม่แล้ว ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นที่เราต้องทำความรู้จักกับ ASEO กันอย่างจริงจังครับ
ASEO คืออะไร? ทำไมถึงเป็น Game Changer ของวงการเอเจนซี่
ASEO หรือ Adaptive Search Engine Optimization คือการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ SEO ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการค้นหา และพฤติกรรมผู้ใช้ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในยุคนี้ครับ
ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ นะครับ เมื่อก่อนเราอาจจะโฟกัสแค่การเขียน Keyword ในบทความหนึ่งให้มาก เพื่อให้ได้อันดับที่ดีในหน้าเสิร์ช แต่สำหรับ ASEO นั้น จะเน้นการสร้าง Topic Authority มากกว่า หมายความว่านอกจาก Keyword แล้ว เรายังต้องสร้างเนื้อหาที่ครอบคลุมหัวข้อนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง และน่าเชื่อถือด้วย
นอกจากนี้ ASEO ยังเน้นการทำให้คอนเทนต์ที่พร้อมจะเป็นคำตอบให้ AI ดึงไปใช้ได้ในทันทีด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวผมเคยทดลองสร้างบทความแบบนี้อยู่บ้าง และพบว่ามันถูกดึงไปแสดงใน Featured Snippet บ่อยกว่าบทความแบบเดิมๆ ถึง 3 เท่าเลยครับ
แกะโครงสร้าง ASEO องค์ประกอบหลักที่เอเจนซี่ต้องเข้าใจ
พอเราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ SEO แล้ว คำถามต่อมาก็คือ แล้ว ASEO ที่ว่านี้มีหน้าตา และโครงสร้างเป็นยังไงกันแน่ล่ะ? เพื่อให้เห็นภาพหลักการแบบตรงกัน และนำไปวางแผนต่อได้ง่ายขึ้น ผมจึงขอแบ่งองค์ประกอบหลักของ ASEO ที่สำคัญออกมา ดังนี้ครับ
1. การปรับตัวเชิงกลยุทธ์
หัวข้อแรกนี้ผมมองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของ ASEO เลยครับ เพราะมันคือการเปลี่ยนจากการรอให้ Google อัปเดตการทำงานแล้วค่อยมานั่งแก้เกม เราต้องคิดความเป็นไปได้ล่วงหน้า และวางโครงสร้างคอนเทนต์ให้แข็งแกร่งพอที่จะรับมือได้ทุกสถานการณ์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เว็บไซต์ในระยะยาวครับ
ตัวอย่างเช่น
จากที่ผมสังเกตคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งที่เคยให้เอเจนซี่โฆษณาของผมช่วยทำการตลาดออนไลน์ โดยเน้นแค่การขายบริการของคลินิก อย่างคีย์เวิร์ด “รักษาสิว” ตรงๆ แต่ทางเอเจนซี่ เลือกจะเสนอให้ใช้หลัก Adaptability ที่ไม่ได้โฟกัสแค่คีย์เวิร์ดเดิมๆ และวางแผนสร้างคอนเทนต์ต่างๆ ที่ครอบคลุมเรื่อง “จักรวาลของการดูแลผิว” ทั้งหมด ตั้งแต่สาเหตุของสิว วิธีป้องกัน ไปจนถึงการดูแลผิวหลังสิวหาย ซึ่งเป็นการสร้าง Topical Authority ที่แข็งแกร่ง จนเมื่อ Google ปรับอัลกอริทึมให้ความสำคัญกับเนื้อหาเชี่ยวชาญเชิงลึกแล้ว เว็บไซต์นี้ก็แทบไม่ได้รับผลกระทบเลยครับ
2. การสร้างความน่าเชื่อถือ และตัวตนให้ AI รู้จัก
องค์ประกอบที่สองนี้เป็นผลโดยตรงมาจากการที่ AI ฉลาดขึ้นครับ อย่างในสมัยก่อนเราอาจจะเขียนบทความอะไรก็ได้แล้วใช้ Backlink ดันให้บทความนั้นติดอันดับ แต่ปัจจุบัน AI ไม่ได้มองแค่เนื้อหาในหน้าเว็บแล้วครับ แต่มันมองลึกลงไปว่าใครคือคนเขียน และแบรนด์นี้น่าเชื่อถือแค่ไหนด้วย
ดังนั้นเป้าหมายของเราจึงไม่ใช่แค่การสร้างคอนเทนต์อีกต่อไป แต่คือการสร้างแบรนด์ของเราให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่น่าอ้างอิงในสายตาของ Google ครับ ซึ่งหลักการ E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) คือสิ่งสำคัญในเรื่องนี้เลย
ตัวอย่างเช่น
บริษัทที่ปรึกษาด้านการเงินต้องการทำการตลาดออนไลน์ให้คนเชื่อมั่นมากขึ้นเอเจนซี่โฆษณา ที่ดูแลอยู่จึงไม่ได้แค่เขียนบทความเรื่องการลงทุนทั่วๆ ไป แต่สร้างโปรไฟล์ของผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนให้ชัดเจน มีหน้าประวัติการทำงาน และผลงานอ้างอิงที่ตรวจสอบได้ จากนั้นก็นำบทความไปเผยแพร่ในเว็บข่าวการเงินที่น่าเชื่อถือเพื่อสร้าง Authority กลับมายังเว็บไซต์หลัก วิธีนี้จึงทำให้ Google มองว่าแบรนด์นี้ไม่ใช่ใครก็ได้ที่มาเขียนเรื่องการเงิน แต่เป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญตัวจริงที่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ จึงนำข้อมูลของเว็บนี้ ไปแสดงผลบ่อยขึ้นครับ
3. ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นหลัก
ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วคนที่เป็นคนค้นหาข้อมูลต่างๆ ก็ยังคงเป็นมนุษย์ เหมือนเดิมอยู่ดีใช่ไหมละครับ การทำ ASEO จึงยังต้องให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจพฤติกรรม และความต้องการของผู้ใช้งานจริงอยู่ครับ การปรับปรุงเว็บไซต์ของเราให้ตอบสนองพวกเขาได้ดีที่สุดจึงยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบให้ UX/UI ใช้งานง่าย ไปจนถึงการปรับโครงสร้างข้อมูลให้พร้อมสำหรับพฤติกรรมใหม่ๆ อย่างการค้นหาด้วยเสียง ที่ต้องการคำตอบที่สั้นกระชับ และตรงไปตรงมาด้วยครับ
ตัวอย่างเช่น
ธุรกิจร้านอาหารที่มีหลายสาขา ซึ่งปกติจะให้บริษัทรับทำการตลาดโปรโมตเมนูใหม่ๆ ด้วยกลยุทธ์เดิมอยู่แล้ว แต่พอมาเน้นเรื่อง Human-Centric มากขึ้น เอเจนซี่โฆษณาก็ปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยสร้างหน้าเพจสำหรับแต่ละสาขาให้ชัดเจน ใส่ข้อมูลสำคัญที่คนมักจะค้นหาด่วนๆ เช่น เวลาเปิด-ปิด เบอร์โทร แผนที่ และมีส่วน FAQ ที่ตอบคำถามง่ายๆ อย่าง “มีที่จอดรถไหม” หรือ “รับบัตรเครดิตหรือไม่” เข้าไปด้วย ซึ่งการปรับแบบนี้ไม่ใช่ทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่ายบนมือถือเท่านั้นนะครับ แต่ยังเป็นโครงสร้างข้อมูลที่สมบูรณ์แบบสำหรับ Voice Search ที่จะดึงข้อมูลไปตอบผู้ใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
เอเจนซี่ต้องปรับตัวยังไงในยุค ASEO ที่กำลังจะมาถึง
หลังจากที่เราได้แกะโครงสร้างและทำความเข้าใจองค์ประกอบหลักของ ASEO กันไปแล้ว ผมเชื่อว่าชาวเอเจนซี่โฆษณา หลายๆ คน น่าจะพอเห็นภาพตรงกันแล้วนะครับว่า นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่มันคือการเปลี่ยนวิธีคิดในการทำ SEO ไปอย่างสิ้นเชิงเลย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการปรับตัวของเอเจนซี่โฆษณาที่รับรับทำการตลาด และทีมทำการตลาดออนไลน์ และการปรับตัวที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงการทิ้งความรู้เดิมทั้งหมดนะครับ แต่คือการเสริมหลักการ และแนวทางใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เราบริการลูกค้าได้ดีขึ้น และเติบโตในยุคต่อไปได้อย่างยั่งยืนด้วย โดยหลักการสำคัญที่ผมอยากจะแชร์ก็มีดังนี้ครับ
1. เป็นที่ปรึกษาไม่ใช่แค่ทำตามสั่ง
ข้อนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องของ Mindset ที่สำคัญที่สุดเลยครับ เพราะแต่ก่อนลูกค้าอาจจะเดินมาหาเราพร้อมกับคีย์เวิร์ดหนึ่งกำมือแล้วบอกว่าให้เราทำคีย์เวิร์ดนี้ให้ติดหน้าแรก ซึ่งบทบาทของเราก็คือผู้รับทำตามความต้องการนั้น แต่ในยุค ASEO ที่ซับซ้อนนี้ การทำงานแบบนั้นไม่เพียงพอที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนได้แล้วครับ เราต้องยกระดับตัวเองขึ้นเป็นพาร์ทเนอร์ที่ปรึกษา ที่เข้าใจธุรกิจของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง สามารถให้คำแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ไกลกว่าแค่เรื่องอันดับบน Google แต่เชื่อมโยงไปถึงเป้าหมายทางธุรกิจของเขาได้จริงๆ ด้วยครับ
ตัวอย่างเช่น
โครงการอสังหาริมทรัพย์มาจ้างเอเจนซี่โฆษณาแห่งหนึ่งให้ทำการตลาดออนไลน์โดยมีโจทย์แค่ว่าต้องการขายคอนโดให้ได้ แต่แทนที่ทีมรับทำการตลาดจะแข่งกันที่คีย์เวิร์ดทั่วไปอย่าง “คอนโดติดรถไฟฟ้า” พวกเขากลับวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และเสนอให้สร้างแหล่งคอนเทนต์สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ มือใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ ให้ความรู้เรื่องการเลือกทำเล การกู้ ไปจนถึงการปล่อยเช่า ซึ่งไม่เพียงแต่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ในระยะยาว นี่คือการทำงานในฐานะพาร์ทเนอร์ด้วยครับ
ความรู้การตลาดที่ Unicronet แนะนำ |
จากตัวอย่างจะเห็นว่า การคิดกลยุทธ์คอนเทนต์ ก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของการทำงานในฐานะที่ปรึกษาเหมือนกันครับ ดังนั้นใครที่อยากเรียนรู้เทคนิคการเปลี่ยนไอเดียดีๆ ให้กลายเป็นคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งที่แข็งแกร่ง และตอบโจทย์ธุรกิจ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลยครับ
🔗 เปิดเทคนิคคิดคอนเทนต์ ให้ตอบโจทย์กลยุทธ์ Content Marketing แบบอยู่หมัด |
2. ใช้ AI เป็นผู้ช่วยคิดไม่ใช่แค่ผู้ช่วยทำ
ผมเชื่อว่าตอนนี้มีหลายเอเจนซี่ที่เริ่มนำ AI มาใช้ช่วยเขียนบทความหรือคิดหัวข้อคอนเทนต์กันบ้างแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่ศักยภาพของ AI ในยุค ASEO นั้นไปไกลกว่าการเป็นเครื่องมือทุ่นแรงเยอะมากครับ ถ้าเราลองมองมันเป็นเหมือนมันสมองที่สองของทีม มันจะกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน หา Pattern ที่เรามองไม่เห็น และคาดการณ์เทรนด์ในอนาคตได้ด้วยครับ ซึ่งจะทำให้ทีมของเราได้เปรียบอย่างมหาศาลเลยครับ
ตัวอย่างเช่น
แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่รับทำการตลาดโดยเอเจนซี่แห่งหนึ่ง แทนที่จะรอให้ทีมมานั่งวิเคราะห์ว่าเทรนด์สีอะไรกำลังจะมา เอเจนซี่กลับใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจาก Social Media และ Search Data ทั่วโลก จนพบว่าสีเขียวมะกอกกำลังมีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทีมจึงรีบวางแผน ทำการตลาดออนไลน์ โดยสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับแฟชั่นสีเขียวมะกอกก่อนใคร พอเทรนด์มาถึงจริงๆ แบรนด์ก็กลายเป็นผู้นำในหัวข้อนั้นไปโดยปริยายครับ
3. เปลี่ยนเป้าหมายจากอันดับสู่ความน่าเชื่อถือ
อย่างที่เราคุยกันไปครับว่า Google ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลแค่กับลูกค้าเท่านั้นครับ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อตัวเอเจนซี่เองด้วย จากประสบการณ์ของผม เอเจนซี่ที่โดดเด่นในยุคนี้ จะไม่ได้แข่งกันที่ราคา แต่แข่งกันที่ความเชี่ยวชาญในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง การทำ Case Study ที่น่าเชื่อถือ หรือการที่ผู้เชี่ยวชาญในทีมออกมาให้ความรู้ผ่านช่องทางต่างๆ สิ่งเหล่านี้คือการสร้างความน่าเชื่อถือที่จะดึงดูดลูกค้าระดับคุณภาพให้เข้ามาหาเราเอง
ตัวอย่างเช่น
เอเจนซี่โฆษณาที่เชี่ยวชาญด้าน B2B เป็นพิเศษ สร้าง Podcast และจัด Webinar รายเดือน วิเคราะห์เทรนด์การตลาดสำหรับธุรกิจ B2B โดยเฉพาะ จนกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่เจ้าของธุรกิจหลายที่ต้องเข้ามาติดตาม เมื่อบริษัทเหล่านี้ต้องการคนมาช่วยรับทำการตลาดเอเจนซี่เจ้านี้ก็มักจะกลายเป็นชื่อแรกที่พวกเขานึกถึง เพราะได้พิสูจน์ความเชี่ยวชาญให้เห็นล่วงหน้าไปแล้วนั่นเองครับ
4. สร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้
ผมกล้าพูดเลยว่าความรู้ SEO ที่เราใช้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว บางเรื่องอาจจะใช้ไม่ได้แล้วครับ เพราะวงการของเราเปลี่ยนแปลงเร็วมากจริงๆ การอบรมพนักงานปีละครั้งจึงไม่เพียงพออีกต่อไป แต่เราต้องสร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนในทีมรู้สึกสนุก และกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการจัด Session แลกเปลี่ยนความรู้กันภายใน การสนับสนุนให้พนักงานไปเข้าคอร์สเรียน หรือแม้แต่การสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ทีมได้ทดลองกลยุทธ์ใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวความผิดพลาด
ตัวอย่างเช่น
เอเจนซี่โฆษณาแห่งหนึ่งที่ผมรู้จัก มีนโยบาย “Innovation Time” ให้พนักงานใช้เวลาศึกษาเครื่องมือใหม่ๆ หรือทดลองทฤษฎี SEO ที่เพิ่งอ่านเจอ แล้วก็มีทีมหนึ่งได้ลองใช้เครื่องมือวิเคราะห์ Log File ของเซิร์ฟเวอร์เพื่อหาว่า Googlebot เข้ามาเก็บข้อมูลเว็บลูกค้าอย่างไรด้วยครับ ซึ่งเป็นเทคนิคขั้นสูงที่ช่วยให้พวกเขาปรับปรุงการทำการตลาดออนไลน์ให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเหนือคู่แข่งไปอีกขั้นได้เลย
5. ความสำเร็จต้องอาศัยคนหลายทีมมากขึ้น
และสุดท้ายการทำ ASEO ให้ประสบความสำเร็จนั้นซับซ้อนเกินกว่าที่คนที่มีทักษะด้านการตลาดเพียงอย่างเดียวจะทำได้ครบทุกมิติอีกต่อไปแล้วครับ ผมมองว่าอนาคตของเอเจนซี่คือการสร้างทีมที่มีผู้เชี่ยวชาญให้หลากหลายขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ได้หมายถึงการต้องจ้างพนักงานใหม่ทั้งหมด แต่อาจเป็นการสร้างเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง เพื่อให้เราสามารถดึงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ด้านข้อมูล หรือด้านคอนเทนต์เฉพาะทางเข้ามาทำงานร่วมกันได้ครับ
ตัวอย่างเช่น
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งต้องการให้ทีมรับทำการตลาดโฆษณาศูนย์รักษาโรคกระดูกสันหลัง ทีมเอเจนซี่จึงเลือกที่จะทำงานร่วมกันกับโรงพยาบาล ด้วยการดึงนักกายภาพบำบัดของโรงพยาบาลมาช่วยให้ข้อมูลเชิงลึก รวมถึงทำงานกับ Developer เพื่อสร้างเครื่องมือประเมินความเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเบื้องต้นบนเว็บไซต์ และให้นักวิเคราะห์ข้อมูลมาช่วยออกแบบการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้งานเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอด เพื่อให้การทำการตลาดออนไลน์ครั้งนี้ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน และสร้างความน่าเชื่อถือได้มากที่สุดครับ
บทสรุป
ท้ายที่สุดแล้ว ผมมองว่า ASEO ก็คืออนาคตของ SEO ที่เดินทางมาถึงปัจจุบันแล้วครับ สำหรับผม มันไม่ใช่เรื่องว่าจะปรับตัวหรือไม่อีกต่อไปแล้ว แต่มันอยู่ที่เราจะเริ่มปรับตัวยังไงให้เร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุดมากกว่า
และหากคุณกำลังมองหาทีมที่ปรึกษาที่พร้อมจะลงมือทำ และทดลองกลยุทธ์ ASEO ไปด้วยกัน ที่ Unicronet เรายินดีที่จะพูดคุย และให้คำปรึกษาแนวทางการทำ ASEO สำหรับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะครับ
หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาและทีมรับทำการตลาด เอเจนซี่โฆษณา สร้างยอดขายทะลุเป้าแบบก้าวกระโดด ติดต่อเราเพื่อให้ธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายที่ใฝ่ฝัน
ติดต่อรับคำปรึกษาฟรี !!!
Tel : 094-616-3651
Line OA : @unicronet
#Unicronet #PerformanceMarketing #digital agency #เอเจนซี่โฆษณา #Marketing agency #ทำการตลาดออนไลน์ #Content marketing
ผู้เขียนบทความ

ชญานิศ จิตรีปลื้ม (นิก)
Founder of Unicronet Agency และ Right Lane Academy ที่ปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลที่เชื่อว่าทุกกลยุทธ์ต้องวัดผลได้จริง ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ มีความเชี่ยวชาญในการใช้ AI และ Martech เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจน และจับต้องได้
(Digital Marketing Strategy ) ประสบการณ์วางแผนกลยุทธ์ทางด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะ Online Platform ยอดนิยม เช่น Facebook ads , Google ads , SEO , Tiktok , Line , Youtube , Marketplace Ads มากกว่า 500+ Campaign
(Digital Media Tools ) ประสบการณ์ด้าน Consult เทคนิคเชิงลึกสำหรับ Digital Media Tools เพื่อให้ทุกงบการลงทุนโฆษณาคุ้มค่ามากที่สุด อาทิเช่น การเพิ่ม Conversion ให้ธุรกิจ , เทคนิค ทำอย่างไรให้ CPA ราคาถูกลง , มีคนทักเยอะ ไม่มีคุณภาพ ปิดการขายไม่ได้ , สินค้าเสี่ยง Policy พร้อมเทคนิคการยิงแอดยังไงให้ไม่โดน Reject